รีวิวหนัง GREENLAND นาทีระทึกวันสิ้นโลก
จากภัยพิบัติถล่มโลกภาพยนตร์ประเภทนี้ออกมาทีไรก็มีคนรอดูอยู่เสมอตัวเนี่ยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยไม่ต้องร้านกระแสหนังแนวนี้จะดูเด็กลงไปบ้างก็ตามเอาจริงๆแล้วชุดที่ของแนวนี้สำหรับเนี่ยมันน่าจะเป็นช่วงปลายปี 90 ก็จะถึงปลายยุค 2000 หลังจากที่ 2012 เข้าภาพยนตร์แนวนี้ก็ค่อยๆเสื่อมความนิยมลงอย่างเห็นได้ชัดหลังน่าจะออกแนวคล้ายเพราะแปลกใหม่มีรูปแบบของขยะที่สุดแหวกแนวมากขึ้นทุกทีอย่างเช่นพวกจีโอสตอร์มเซิร์จอะไรแบบนั้นซึ่งมันก็ดูได้เรื่อยๆเลยไม่ได้มีปัญหาแต่ว่ามันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับช่วงยุคก่อนเท่านั้นเองเกี่ยวกับทางไปดูตัวอย่างของกรีนแลนด์หนังภัยพิบัติเรื่องใหม่ถอดเหนียวว่าด้วยดาวหางยักษ์ถล่มโลกอะไรมันจะคลาสสิคขนาดนั้นในตัวอย่างเดียวก็จะเต็มและผู้บาดก้อนโตที่กำลังลุกขึ้นไปและร่วงหล่นลงมาเมืองทั้งเมืองกำลังลุกเป็นไฟท้องฟ้าเถ้าถ่านเป็นภาพที่เห็นแล้วชวนชื่นใจฉันบอกไม่ถูกจบมันก็ทำให้รู้สึกว่าเราคิดถึงหนังแนวนี้มากขนาดไหนที่เรื่องนี้นักแสดงนำคือเจอราร์ดบัตเลอร์มาเล่นนำยิ่งเพิ่มความน่าดูมากขึ้นไปอีกส่วนตัวแล้วเนี่ยรู้สึกสนใจเรื่องนี้แล้วก็อยากดูเรื่องนี้แบบสุดๆกรีนแลนด์ว่าด้วย 3 พ่อแม่ลูกจอห์นสันและเนปาลครอบครัวธรรมดาธรรมดาที่สถาเริ่มจะไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ตัวพ่อและแม่กำลังหลักของระแหงลูกชายคนเดียวของเขาก็ป่วยเป็นโรคเบาหวานตั้งแต่ยังเล็กทุกอย่างนั้นเดินผ่านไปอย่างเป็นปกติแต่ว่าในตอนนี้โลกกำลังเจอกับปรากฏการณ์ธรรมชาติครั้งสำคัญดาวหางขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าคลาสมันกำลังโคจรเข้าใกล้โลก
แม้จะดูน่ากลัวแต่ทางการยืนยันแล้วว่ามันจะไม่มีผลกระทบอะไรที่เป็นอันตรายและขณะที่ผู้คนทั้งโลกนั้นกำลังแทนที่จะได้รับชมปรากฏการณ์ครั้งนี้จอห์นไปรับข้อความลับจากทางรัฐบาลเขาและครอบครัวเป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือกให้รอดชีวิตมีสิทธิ์จะอยู่ในศูนย์พักพิงเพื่อซ่อนตัวจากใครและดาวหางที่กำลังจะเกิดขึ้นในที่นี้มันไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับเลือดและไม่ใช่แค่ท้องฟ้าเท่านั้นที่ลุกเป็นไฟโลกที่กำลังวุ่นวายนี้กูด้วยจอห์นต้องพาครอบครัวฝ่าอุปสรรคที่ขวางกั้นความโกลาหลที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อไปให้ถึงสถานที่นัดหมายให้ทันเวลาก็ที่พระบาทยักจะมาคร่าชีวิตของพวกเขาไปความรู้สึกแรกหลังจากดูจบมันก็ประหลาดใจกินแล้วเดี๋ยวเป็นหนังภัยพิบัติที่ค่อนข้างจะแปลกมากเลยทีเดียวถ้าถามว่ามันเป็นยังไงเดี๋ยวเรามาฟังกันเริ่มจากตัวเพราะก่อนเลยกูก็บาทถ้าลงเนี่ยมันเป็นอะไรที่เรียบง่ายที่สุดแล้วใช่ไหมล่ะสำหรับแนวภัยพิบัติช่วงต้นของภาพยนตร์ก็จะเป็นการปูเรื่องราวต่างๆให้เราได้รู้จักกับตัวละครและเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นทุกอย่างเนี่ยดำเนินตามสมเด็จตามแบบฉบับที่เราเคยเห็นหนังสือคู่มือว่าหนังภัยพิบัติควรจะเป็นยังไงกินแลนก็ทำทุกอย่างแบบคู่มือที่ว่ามาแบบใกล้ๆเริ่มต้นมาจากครอบครัวที่มีปัญหาภายในตัวละครใดตัวละครในมีปัญหาส่วนตัวซึ่งสิ่งนั้นก็จะส่งผลต่อการเอาชีวิตรอดทุกอย่างดำเนินตามสูตรซะจนเนี่ยยิ้มมุมปากเลยว่าแม่มันสุดๆซึ่งมันก็ดีตัวไหนเนี่ยไม่ทำให้เราเสียเวลามากเขาเลือกได้อย่างรวดเร็วเราทุกอย่างได้อย่างตรงประเด็นเข้าใจง่ายด้วยความที่คิดว่ามันครีเช่ก็เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้เนี่ยมันได้ทานง่ายเกินไปหน่อยแต่ดูไปดูมาสักพักหนึ่งทุกอย่างมันไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดเพราะหลังจากช่วงกูเรียกตอนต้นมาแล้วหลังจากนั้นรับประกันว่าคุณจะเดาอะไรแทบไม่ได้แล้วช่วงกลางเรื่องนี้เขาจะเน้นด้านการเอาชีวิตรอดมันเป็นปกติอยู่แล้วสำหรับหนังแนวภัยพิบัติที่โลกจะแตกที่ LINE เนี่ยคนก็จะออกมาสร้างความวุ่นวายเมื่อนั้นการก่อจลาจลการขโมยอะไรแบบนั้นก็จะเน้นตรงจุดนี้มากเป็นพิเศษเหมือนกันใช้เวลาไปกับมันมากอยู่พอสมควรบางช่วงบางเวลาเนี่ยแทบจะลืมเรื่องกว่าบาทไปเลยก็ว่าได้แล้วกลายเป็นหนัง survivor
ครอบครัวไปซะอย่างนั้นถ้าไม่ช่วงนี้ในผู้กำกับก็จงใจจะใส่ลูกเล่นเข้ามาจากต่างๆเนี่ยเราไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นใครที่ดูหนังแนวนี้บ่อยๆก็จะเดาได้ใช่ไหมว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแต่ว่านางก็จะพามันไปอีกแบบบางฉากเนี่ยเราดูแล้วเราก็ต้องคิดว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ได้แน่ๆถ้ามันไม่ใช่อันนั้นก็ไม่ใช่อันนี้ก็ไม่ใช่เรียกว่าจับทางไม่ถูกเลยใครที่ชอบเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าแบบเวลานั่งดูหนังเนี่ยยอมรับว่าสนุกแปลกๆเหมือนกันเพราะว่าเราเดาไม่ถูกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเหมือนกับเล่นเกมปริศนายังไงอย่างนั้นแต่ปัญหาก็คือช่วงกลางเรื่องของนางเนี่ยมันดูจะยืดยาวมากเหมือนกันและด้วยความที่มันแบ่งออกเป็นหลายเส้นทางมันก็เลยดูจะไม่ค่อยปฏิบัติต่อสักเท่าไหร่บางฉากในเรื่องย่อ
เขาอยู่เหมือนกันคือมันไม่ได้ไร้เหตุผลแต่ตัวละครในชอบเจอกับอะไรแปลกๆจนบางทีก็นั่งคิดว่าคนอะไรมันจะสวยได้ขนาดนี้ส่วนใครที่อยากจะดูเรื่องภัยพิบัติเยอะๆเนี่ยให้ทำใจไว้นิดนึงเพราะว่าต้องรอไปถึงช่วงท้ายเรื่องเลยกลัวมันจะเข้าประเด็นถ้าเกิดว่าคุณเนี่ยไม่ได้ Enjoy กับวิธีการเล่าของหนังช่วงกลางเรื่องมันก็จะค่อนข้างชัวร์หนาวเลยต่อมาก็จะขอพูดถึงที่เจอราร์ดบัตเลอร์ของเราคิดว่าคาแรคเตอร์ของแกเรื่องนี้เนี่ยเข้าท่ากว่านักวิทยาศาสตร์ใน geostorm เยอะเลยแล้วจะเห็นพี่แกเนี่ยทั้งรวยทั้งวิ่งเอาตัวรอดเยอะอยู่พอสมควรภายในเรื่องใครที่คิดถึงนักแสดงท่านนี้เลยก็น่าจะพอชื่นใจกันได้แต่ว่าพูดก็พูดใครที่เกิดเป็นลูกเป็นเมียเจอราร์ดบัตเลอร์เนี่ยหนังเรื่องไหนก็สวยตลอดจริงๆมีเรื่องไหนที่เขาได้ใช้ชีวิตสงบสุขกันบ้างเลยว่าน่าสงสารจริงๆแล้วอีกเรื่องนึงที่รู้สึกแอบเสียดายนิดหน่อยก็คือตอนจบของหนังที่ดูเหมือนจะมีบทสรุปแต่จริงๆแล้วคิดว่าผู้กำกับจงใจแยกออกเป็น 2 แบบให้เราคิดเอาเองว่าอยากให้มันลงทางไหนน่าเสียดายเหมือนกันเพราะว่าชอบตอนจบแบบแรกมากๆแต่ว่าจบจากนี้ไปเลยกินแรงอาจจะกลายเป็นหนึ่งในหนังขึ้นหิ้งที่คนพูดถึงได้เยอะเหมือนกันเลยส่วนใครที่คิดว่าไม่ออกว่าตอนจบ 2 แบบมันคืออะไรก็ให้คิดถึงตอนจบของฉลาดเกมส์โกงเวอร์ชั่นภาพยนตร์ดูแล้วกันสรุปเลยแล้วกันกี่ล้านเนี่ยจะเรียกว่าเป็นหนังภัยพิบัติเต็มตัวก็คงจะเรียกได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ไม่ว่าไม่หลับเพราะจะผูกติดอยู่กับมันแต่ว่าชั้นต่างๆค่อนข้างจะน้อยเหลือเกินสำหรับแล้วมันคือหนัง survivor ครอบครัวในรูปแบบปลอดภัยพิบัติที่ดูเป็นแผลเนี่ยสุดแสนจะเข้เนื้อในเนี่ยแขวนไว้ด้วยลูกเล่นมากมายขึ้นอยู่กับว่าคุณจะชอบมันหรือเปล่าเท่านั้นเองใครคาดหวังฉากอลังการตุ๊กตาแบบอาจจะมีเพี้ยนบ้างมันน้อยแล้วก็แตกต่างจากที่โชว์ในเทเลอร์อยู่พอส่วนตัวแล้วเนี่ยไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่หมายถึงว่ามันไม่ค่อยตรงปกอารมณ์เหมือนว่าเราสั่งกระเพราแล้วได้เข้าผลัดถ้าเกินก็ว่าเจ้านี้แหละเขาก็ทำข้าวผัดออกมาได้อร่อยเหมือนกันมันก็เลยพอจะมองข้ามไปได้ก็คงคิดอะไรไม่ออกก็จะเทียบกับของกินไว้ก่อนใครที่เห็นเราเครียดเยอะๆก็เบื่อกันเลยสำหรับเรื่องนี้
Review Movie GREENLAND
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น