Review Movie MORBIUS

 

รีวิวหนัง MORBIUS

            นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในหัวของหลังจากที่ได้เห็นคำวิจารณ์แรกของรอบสื่อต่างประเทศคราวนี้เนี่ยไม่มีเสียงแตกเลยนะส่วนใหญ่เนี่ยไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดเลยกับว่าตัวหนังสือมันเละเทะแล้วก็ไร้ทิศทางมากๆบางความเห็นนั้นไม่ใช่แค่หนังหวยด้วยซ้ำเลยแต่มันยิ่งกว่านั้นซะอีกแม่ขนาดนั้นเลยหรอปกติแล้วจะดูเว็บมะเขือเน่าเป็นหลักเพราะคะแนนเนี่ยมันจะไม่ค่อยเฟ้อมากเท่าไหร่แต่เรามาดูเว็บมหาชนอย่าง imdb นี่สิมันก็ยังน้อยอยู่ดีรู้สึกว่าผิดวิสัยมากๆปกติแล้วหนังใหม่ที่พึ่งเข้าแล้วก็ได้เฉพาะหนังสายแมสหนังแอ็คชั่นหนังฮีโร่เนี่ยคะแนนจะมาส่งก่อนก็จะมันจะค่อยๆลดลงไปแต่นี่แหละแค่เปิดตัวมาคนรีวิวจำนวนยังไม่เยอะมากก็ไปไม่สวยซะแล้วตัวลองอ่านคำวิจารณ์ต่างๆก็ได้ประมาณนี้ mobius เป็นหนังที่เหมือนจะดีแต่พูด เน็ตไม่สวยทีมของหนังก็ไม่เอาสักอย่างจะเป็นหนังแวมไพร์ก็ไม่ใช่เป็นหนังฮีโร่ก็ไม่เจอแถมยังพยายามเล่นใหญ่เข้าสู่จักรวาล Sony ที่กำลังจะสร้างอีกบางส่วนในการโจมตีไปยังผู้กำกับอย่าง Daniel espinosa ไม่เคยดูหนังของพี่แกเรื่องเยอะจริงๆก็คือร้ายในปี 2017 ตัวเล็กๆยึกยือบนดาวอังคารนั่นแหละจำได้ว่ามันก็รู้สึกโอเคอยู่นะถ้าเราเข้าวิจารณ์ของกูรูต่อจานเดียวในเรื่องนั้นมาถึงขั้นขนาดว่าจะแก้ในคงรับงานมาแล้วก็ทำให้มันจบๆไปอย่างนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเท่าไหร่มันก็ถือว่าแรงมากเหมือนกันนะว่าหนังเรื่องนี้เนี่ยทำไมดูซีเรียสกับคำวิจารณ์จากต่างประเทศจังอยู่ผิดวิสัยใช้กับเพราะว่าไม่ต้องอ้างว้างกับ morbius เยอะเหมือนกันชอบตัวอย่างที่ปล่อยออกมาก็ชอบทีมเรื่องที่มันดูมืดๆตัวเองที่ค่อนข้างจะแปลกประหลาดรูปลักษณ์ภายนอกเนี่ยดูน่ากลัวเลยทีเดียวและอีกหนึ่งเหตุผลก็คือจาเร็ดเลโต้ก็โพสต์อะไรกับที่แรงๆนะ สบประมาทมากมายเหลือเกินว่าเขาไม่เหมาะสมกับออสก้าแล้วหรือเปล่าเพราะเราจะช่วยเขาหวังว่า morbius เรื่องนี้เนี่ยจะเป็นการคัมแบ็คที่สวยงามของพี่เค้าแต่เอาเด็กที่ชอบพูดประจำกระแสจะว่ายังไงสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นแล้วก็จะดีจะแย่ยังไงขอตัดสินด้วยตาของตัวเองเรื่องราวของยาเบสนั้นเริ่มขึ้นที่ michaelis แพทย์หนุ่มผู้เวชาญเนื้อเรื่องเลือดและนอกจากนั้นยังเป็นนักชีวเคมีมือดีด้วยกับตัวเขานั้นเพื่อนเป็นหมอเฉพาะทางเพราะมีเหตุผลก็คือมอร์เบียสนั้นมีโรคประจำตัวที่หาได้ยากมันเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของเลือดหมอหนุ่มจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาตัวเองจนกระทั่งได้พบเข้ากับการรักษาสัตว์ประหลาดโดยการใช้เลือดของค้างคาวและการรักษานั้นก็มีผลที่ตามมาหมอหนุ่มนั้นกลับมาอีกครั้งพร้อมกับคำว่าผลข้างเคียงคือไม่ใช่แค่อาการป่วยหายไปแต่ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และก็ร้ายการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กำลังจะดึงดูดความวุ่นวายต่างๆเข้ามาหาเค้าคนที่ไม่หวังดีมีบางสิ่งที่แย่กว่านั้นเรื่องราวจะเป็นยังไงอาจจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแบบไหนหาคำตอบได้ในจะถามว่าความรู้สึกหลังจากดูหนังจบเป็นยังไงจะต้องบอกว่ามีแต่ความงงแล้วก็ฉันหมดสงสัยมันเต็มหัวไปหมดแล้วมองว่ามันไม่ใช่หนังที่เลวร้ายขนาดนั้นแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันมีปัญหาค่อนข้างจะเยอะมากมากแบบมากจริงๆขอเลขที่จดแจ้งคือของมันก่อนก็คือถ้าเกิดว่าดูผิวเผินจากบทโดยรวมนะอาจจะมองว่าพรของหนัง

            เรื่องนี้เนี่ยมันตามสูตรไปหน่อยมันเป็นหนังแอนตี้ฮีโร่ที่เป็นแวมไพร์ 101 อะไรประมาณนั้นแต่ไม่คิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไรนะกับการที่คุณจะทำหนังตามสูตรมันก็คือการการันตีคำว่าหนังเรื่องนี้เนี่ยมันมีโอกาสแย่น้อยยังไงก็ได้มาตรฐานแน่นอน จะทำอะไรที่มันพื้นขนาดไหนถ้าเราออกมาดีมันก็ดีใช่ไหมล่ะแต่ถ้าเกิดว่าเพื่อนๆแล้วการเล่าอย่างแย่อีกแล้วจะเป็นยังไงนั้นอยู่ในสถานะนี้เลยไม่เป็นไรที่เดินเรื่องที่ค่อนข้างสับสนแบบสุดๆปกติแล้วหนังส่วนใหญ่นั้นมักจะแบ่งออกเป็น 3 Package เลข 3 โมงก็แล้วแต่มันก็เริ่มจากการปูกระเบื้องแนะนำตัวละครต่างๆเดินเรื่องสร้างปมปัญหาหรือว่าวัยร้ายกว่าจะปิดหรือฉากไคลแม็กซ์เฉลิมพลต่างๆที่ปูม้าๆใหญ่ๆซึ่งมันค่อนข้างจะสำคัญเพราะจะทำให้เส้นเลือดไม่สับสนกับพี่ก็ยังสามารถไล่ระดับอารมณ์ของผู้ชมได้อีกลองคิดภาพเราเดินไปดูเขา 1 ลุกรับเริ่มจากจุดที่ต่ำไปยังจุดที่สูงซึ่งเป็นจุดที่สูงนี่แหละคือจุดที่ลงของผู้ชมนั้นจะหายไปถึงขีดสุดยังไงว่าจุดพีคนั่นแหละมันมักจะเกิดขึ้นในองค์ที่ 3 ดูเรียบร้อยซะจนน่าตกใจแต่หลายคนเลยแหละประเด็นนั้นถูกยัดเข้ามาแบบรวดเร็วและก็ไม่หยุดเลยถ้ามีเวลาตอบช้าพวกนั้นน้อยมากๆแล้วก็ว่าเราหลับตาแล้วลองจินตนาการว่าตัวเรานั้นอยู่ในสถานะเดียวกันกับตัวละครในเรื่องมันก็จะแบบว่าที่เกิดขึ้นเนี่ยมันดราม่ามากๆเลยนะแต่สิ่งที่ปรากฏบนจอมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็สงสัยว่าแล้วทำไมถึงไม่เอาฉากที่ไม่สำคัญออกแล้วมาใช้เวลากับช่วง Climax แทนแล้วก็การไล่อารมณ์ของหนังเรื่องนี้เนี่ยไม่ต้องพูดถึงมันขึ้นลงๆยิ่งกว่ารถวิบากซึ่งในการขึ้นลงๆมันก็ไม่ได้ลงสุดขึ้นสุดกับมันขึ้นนิดนึงแล้วมันก็ลงไปนิดนึงมันเป็นเหมือนทางขรุขระถ้ามีความรู้สึกของเรานะมันเหมือนนั่งอยู่บนรถแล้วก็อยู่บนทางวิบากกับมันไม่น่าพิสมัยเราซะเลยจ้ากำลังมันส์ๆเนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นก็ต้องมาถูกคั่นด้วยความอะไรก็ไม่รู้ตลอดทั้งเรื่องยิ่งฉากจบนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยดูแล้วก็แบบ จบแล้วหรอแค่นี้จริงๆหรอไม่ชวนสงสัยมากจนต้องทำคำถามว่าผู้กำกับเมียเขามีข้อกำหนดในการทำงานอะไรสักอย่างหรือเปล่าเช่นต้องทำให้เหมือนกับคอมมิวนิสต์ๆเปิดหนังสือมาเนี่ยต้องเหมือนกันเลยอะไรแบบนั้นหรือเปล่าช่วงนี้ไม่รู้เหมือนกันนะเพราะว่าไม่รู้เรื่องคอมเม้นของเรื่อง morbius เลยว่าเป็นแบบนั้นจริงๆก็อาจจะอธิบายความวุ่นวายในหลายๆฉากของมันได้ก็ต้องลองไปดูจริงๆและนี่ก็คือที่มาของความฉงนของเวลาดูไปก็อยากจะกลายร่างเป็นอาจารย์แดงแล้วก็ถามว่าทำไปทำไมทำไปเพื่ออะไรมันเป็นแบบนั้นจริงๆแต่ว่ามาถึงก็จัดชุดใหญ่ซะแล้วแต่นี่คือจุดที่ขยายความเฉยๆว่าทำไมถึงคิดว่าหนังเรื่องนี้มันมีปัญหาอย่างที่เกินไปไม่รู้สึกว่าเมาเบียร์นั้นมันเป็นหนังที่เลวร้ายอะไรนะอาจจะจำไม่ได้แล้วแต่พูด

Review Movie MORBIUS